ในเกม พรีเมียร์ลีก เมื่อวันเสาร์ที่ 2 เม.ย. ที่ผ่านมา ปีศาจแดง แมนฯ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ รังนิก ยังสร้างความขุ่นเคืองให้กับแฟนบอล ผีแดง เมื่อทำได้แค่เปิดบ้านไล่ตีเสมอ จิ้งจอกสยาม 1 ต่อ 1
นับตั้งแต่บุกไปคว่ำ ลีดส์ 4 ต่อ 2 ในเกมลีกช่วงต้นเดือนก.พ. ผู้จัดการทีมชาวเยอรมันพาทีมคว้าชัยได้แค่นัดเดียวเท่านั้นในเกมลีกเปิดบ้านพิชิต ไก่เดือยทอง 3 ต่อ 2 จากการลงเล่นหกนัดหลังในทุกรายการรวมถึงเกมล่าสุดด้วยซึ่งมี 6 ประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
1.ไม่มี โด้ ผี ไม่ชนะ
โรนัลโด้ แม้จะมีอายุ 37 ปีแล้ว แต่ดาวซัลโวสูงสุด 18 ประตูในทุกรายการ (12 ประตูในลีก) ของ ผีแดง ยังมีความสำคัญต่อทีมเสมอ
หลังจาก คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ไม่สบายจนไม่อาจลงเล่นกับ จิ้งจอกสยามได้ ปีศาจแดง ก็เก็บได้แค่หนึ่งคะแนนด้วยการไล่ตีเสมอ จิ้งจอกสยาม ชนิดหวุดหวิด เกือบแพ้ไปเหมือนกันหาก เคเลชี่ อีเฮียนาโช่ ไม่ทำฟาวล์ ราฟาแอล วาราน ซะก่อนจนโดนริบประตูที่เกือบเป็นชัยชนะ 2 ต่อ 1 ของทีมเยือน
สำหรับฤดูกาลนี้ โรนัลโด้ พลาดลงเตะให้ ปีศาจแดง เป็นนัดที่ 7 แล้ว และมีการกางสถิติออกมาแฉว่า ผีแดง ไม่เคยชนะเลยในยามที่ปราศจากดาวเตะเลือดฝอยทองซึ่งพวกเขาเสมอ 6 นัด และแพ้ 1นัด รวมถึงนัดที่พบกับจิ้งจอกสยาม นี้ด้วย
ณ เวลานี้ สาวกผี จึงต้องรอลุ้นกันให้ดีว่าฤดูกาลหน้า โด้ จะยินดีลงเล่นใน โรงละครแห่งความฝัน ต่อไปหรือเปล่าเนื่องจากมีแนวโน้มชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ ว่า รังนิก จะพาทีมคว้าอันดับ Top4 ไม่สำเร็จ
2. แม็คโทมิเนย์ รอดใบแดงเหลือเชื่อ
หลังจากปีศาจแดงโชว์ฟอร์มไม่ดีนักในครึ่งแรก ทำได้แค่เสมอกับ จิ้งจอกสยาม แบบไม่มีแต้ม เริ่มครึ่งหลังผ่านมาแค่สี่นาที สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ ก็ทำเอาแฟน ผีแดง ตกใจไปตามๆ กันจากจังหวะพุ่งเข้าใส่ เจมส์ แมดดิสัน แบบไม่มีเบรกกับจังหวะที่กัปตันทีมชาติ
สกอตแลนด์ทำบอลหลุดเท้า และปรี่เข้ายันไปที่กองกลางทีมชาติอังกฤษซึ่งปรากฏว่าผู้ตัดสินใจดีเหลือเกินแจกใบเหลืองให้เท่านั้น ท่ามกลางการรุมประท้วง และกดดันจากเหล่าสาวกจิ้งจอก อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่วีเออาร์เห็นพ้องว่าเป็นการทำฟาวล์ที่ยังไม่ถึงขั้นโดนใบแดง จึงทำให้ แม็คโทมิเนย์ รอดตัว ขณะที่ แมดดิสัน ก็โชคดีที่ไม่บาดเจ็บ
สื่อต่างๆ หลายสำนักพากันรุมชี้ว่ามิดฟิลด์เจ้าบ้านดวงเฮงโคตรที่ไม่ได้ใบแดง รวมถึง แกรี่ เนวิลล์ อดีตกองหลัง ปีศาจแดง ก็ระบุว่า แม็คโทมิเนย์ โชคดีที่ได้แค่ใบเหลือง ทั้งๆ ที่ยกเท้าสูงใส่ฝ่ายตรงข้าม
แต่ที่ชัวร์ๆ จากนั้นแค่ไม่กี่นาที รังนิก แสดงให้เห็นถึงประสบการณ์ด้วยการตัดสินใจเปลี่ยน แม็คโทมิเนย์ ออกทันทีให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ลงเล่นแทนเพื่อตัดความเสี่ยงได้ใบเหลืองเพิ่มของฮาร์ดแมนสัญชาติวิสกี้ พร้อมทั้งปรับหมากไปในตัวด้วยเนื่องจาก ผีแดง จำเป็นต้องหาจุดเปลี่ยน ยกระดับเกมให้ได้เพื่อเก็บ 3 คะแนนลุ้นคว้าอันดับ Top4 ต่อไป
เมื่อลงเอยแล้ว ปีศาจแดง ก็ได้แค่เสมอกับ จิ้งจอก ประเด็นของ แม็คโทมิเนย์ เลยจบลงอย่างที่พอจะเข้าใจได้ หากผีแดง ได้สามแต้มขึ้นมา รับรองได้เลยว่างานนี้ต้องมีดราม่าระดับเวทีออสการ์เกิดขึ้นอย่างแน่นอนที่สุด
3. หัวหอกที่ชื่อ บรูโน่
ด้วยเหตุที่ผีแดงปราศจาก โรนัลโด้ ที่ไม่สบาย รังนิก จึงวางแผนด้วยการใช้งาน บรูโน่ แฟร์นันด์ส จอมทัพคนสำคัญให้ยืนเป็นหัวหอกฟาดฟันกับจิ้งจอก
มีการตีแผ่ออกมาว่าปรมาจารย์จากแดนไส้กรอกตัดสินใจใช้กลเม็ดเดียวกับเกมบุกไปปะทะกับ เรือใบสีฟ้า ซึ่ง โรนัลโด้ บาดเจ็บพลาดการลงเล่นเช่นกันก่อนที่ ผีแดง จะแพ้ยับ 4 ต่อ 1 โดยมี แฟร์นันดส์ ยืนค้ำอยู่ในแดนหน้า
นอกจากจอมทัพโปรตุกีสแล้ว รังนิก เลือกจัดแผงรุกเกมล่าสุดเหมือนนัดแพ้ เรือใบสีฟ้า โดยมี ปอล ป็อกบา สนับสนุนอยู่ตรงกลาง จับ แอนโธนี่ อีแลงก้า กับ เจดอน ซานโช่ เล่นเป็นปีกเช่นกัน
แค่นั้นไม่พอ แม็คโทมิเนย์ กับ เฟร็ด ได้เล่นเป็นมิดฟิลด์คู่กันเหมือนนัดที่แพ้เพื่อนบ้านที่น่ารำคาญอีกด้วย จะต่างไปก็ตรงแผงหลังที่นัดฟัดกับ จิ้งจอก มี ลุค ชอว์ , ดีโอโก้ ดาโลต์ และ ราฟาแอล วาราน ลงปะทะเป็นตัวจริงก่อนหน้า อเล็กซ์ เตลเลส ,อาร่อน วาน บิสซาก้า และ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ
แต่หากจะยึดผลลัพธ์เป็นที่ตั้ง ปีศาจแดง ทำได้ดีกว่าเกมแพ้ เรือใบสีฟ้า เนื่องจาก แฟร์นันด์ส สบโอกาสสับไกแล้วถูก แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ปัดออกมา แต่เจ้าบ้านมี เฟร็ด ปรี่เข้าซ้ำตีเสมอได้สำเร็จซึ่งเป็นอีกหนที่กองกลางแซมบ้าช่วยชุบชีวิตต้นสังกัดเอาไว้ได้ในฤดูกาลที่ดีที่สุดของเขากับทีมฟุตบอลอังกฤษ
4. ปอล ป็อกบา แยกย้ายหรือไปต่อ?
ก่อนหน้านี้ ป็อกบา ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าเหตุที่เขาลงเล่นกับ ปีศาจแดง ได้ไม่ดีเท่ากับทีมชาติฝรั่งเศสน่าจะเป็นเพราะความลงตัวในสไตล์การเล่นเป็นสำคัญ
นัดล่าสุดที่ได้ลงเล่นให้ต้นสังกัดเป็นตัวจริงเหมือนเคยกับจิ้งจอกแต่ไม่มีผลงานที่จับต้องได้ และโดนเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 75 บีบีซี ได้วิเคราะห์ออกมาว่าดาวเตะเฟรนช์แมนไม่อาจเอาดีกับ พรีเมียร์ลีก ซึ่งเล่นกันด้วยความเร็วสูงได้เนื่องจากเขาเชื่องช้า ต้วมเตี้ยมเกินไปดังจะเห็นว่ามีความเก้งก้างในการควบคุมบอล และผ่านบอล
ด้วยเหตุนี้ สื่อยักษ์จึงชี้ว่าการย้ายออกไปของ ป็อกบา น่าจะดีกว่าสำหรับ ผีแดง แม้สโมสรจะไม่ได้ค่าตัวจากเขาเลยสักแดงเป็นหนที่สอง พิจารณาจากความน่าจะเป็น ป็อกบา ส่อแววย้ายทีมตามความต้องการของเอเยนต์อีกรอบเนื่องจากเขายังไม่ต่อสัญญาฉบับใหม่แม้เจ้าตัวจะยืนยันเสมอมาว่าขอตัดสินอนาคตหลังจบฤดูกาลเท่านั้น
กระทั่งผีแดงประกาศคิวทัวร์ช่วงปรีซีซั่นซึ่งมีการใช้รูป ป็อกบา เป็นนายแบบโปสเตอร์ร่วมกับ โรนัลโด้ และ เตลเลส สาวกผีแดง ก็พากันมโนว่าบางทีอาจเป็นการส่งสัญญาณจาก ปีศาจแดง แมนฯ ยูไนเต็ด ว่ามีแนวโน้มที่ ป็อกบา อาจต่อสัญญาก็ได้เนื่องจากสโมสรคงไม่อยากเสียเขาไปแบบฟรีๆ หรือหากจะเสียก็ขอให้ต่อสัญญาก่อนแล้วค่อยย้ายทีหลังคงดีกว่า
แต่ไม่ว่าความจริงจะเป็นอย่างไร ที่จริงแท้แน่นอนกว่านั้นก็คือระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่านักเตะอย่าง ป็อกบา ไม่มีทางพา ปีศาจแดง กลับคืนสู่ความยิ่งใหญ่ได้เลย
5. คิดถึง ไมเคิ่ล คาร์ริค กันบ้างมั้ย?
หลังจากหายเงียบไปนาน อดีตนายใหญ่ขัดตาทัพของปีศาจแดง ก็ปรากฏตัวในนัดนี้ ด้วยการนั่งดูอยู่บนอัฒจันทร์ของ โอลด์ แทรฟฟอร์ด จากการทำหน้าที่ชั่วคราวแทน โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ที่โดนปลด อดีตกองกลางทีมชาติอังกฤษพาทีมลงเล่นสามนัด ชนะสอง เสมอหนึ่ง แต่ถึงขณะนี้เขายังไม่ได้รับงานคุมทีมไหน แม้เจ้าตัวจะแบะท่าพร้อมรับฟังข้อเสนอก็ตาม
ขณะเดียวกัน การปรากฏตัวรอบนี้ของ คาร์ริค ทำให้แฟนบอล ผีแดง อดคิดไม่ได้เหมือนกันว่าหากเป็นเขาที่ได้ทำงานต่ออย่างถาวร ไม่ใช่ รังนิก ที่มีผลงานสามวันดีสี่วันไข้ ปีศาจแดง จะดิ้นรนอย่างที่เป็นอยู่หรือเปล่า
6. จิ้งจอกกระดูกชิ้นโตของ ผีแดง
อาจฟังดูไม่น่าเชื่อ แต่ในระยะหลังมันเป็นแบบนั้นจริงๆ จาก 3 นัดหลังในทุกรายการที่ 2 ทีมนี้ปะทะกัน ปีศาจแดง แพ้ จิ้งจอก ตลอด
เกมวันที่ 21 มี.ค.2021 เอฟเอคัพ จิ้งจอก 3 ปีศาจแดง 1
เกมวันที่ 11 พ.ค.2021 พรีเมียร์ลีก ปีศาจแดง 1 จิ้งจอก 2
เกมวันที่ 16 ต.ค.2021 พรีเมียร์ลีก จิ้งจอก 4 ปีศาจแดง 2
และเกมล่าสุด ปีศาจแดง ก็ไม่ชนะ จิ้งจอก เนื่องจากทำได้แค่เสมอ 1 ต่อ 1 ในถิ่นตัวเองและหากจะถอยเวลากลับไปอีกก่อนหน้าฟุตบอลถ้วยน็อคเอาท์ ทั้งคู่ก็บู๊กันในลีกวันที่ 20 ธ.ค.2020 และเสมอกัน 2 ต่อ 2 มันจึงกินเวลานานสี่นัดเข้าไปแล้วทีปีศาจแดง เอาชนะ สุนัขจิ้งจอก ไม่ได้เลยไม่ว่าจะเป็นรายการไหน แต่ก็ยังดีที่ไม่แพ้สี่เกมรวดในทุกรายการ ซึ่งจะเป็นสถิติใหม่สุดของผีแดงที่มีต่อทีมคู่แข่งรายนี้